ReadyPlanet.com


น้ำขิง ประโยชน์แจ่มจริง ๆ


ขิง ประโยชน์แจ่มจริง ๆ ดื่มทุกวันยิ่งดีเลย

ขิง ดีต่อสุขภาพจริง หรือแค่มโน - พบแพทย์

สมุนไพร สำหรับสตรีหลังคลอด สมุนไพร ช่วยลดน้ำหนัก ลดความอ้วน สมุนไพร รักษาสิว โรคต่างๆโรคติดต่อ โรคไม่ติดต่อ บาคาร่า โรคทางระบบทางเดินหายใจและปอด โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แก่ กับตำรับยาจีนอย่างง่าย คลื่นไส้อาเจียน อาเจียนมีน้ำลายมาก ไม่กระหายน้ำ ตำรับยาอย่างง่าย สด แว่น ป้านเซี่ย 12 กรัม คลื่นไส้อาเจียน หรือเรอ สะอึก ตำรับยาอย่างง่าย แนะนำสินค้าน่าลอง 5 ประโยชน์ของขิง เรื่องจริงที่น่ารู้ ขิง พืชหรือสมุนไพรที่มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว บางคนที่ชอบทานก็จะชอบมาก แต่สำหรับบางคนเพียงนิดเดียวก็ไม่ขอยุ่งเลยดีกว่า เพราะรสชาติที่อาจจะไม่พึงประสงค์ ทานแล้วมีกลิ่นติด แต่เพื่อนๆทราบมั้ยคะว่า นอกจากรสเผ็ดร้อนแล้ว ขิงยังมีประโยชน์มากมาย วันนี้แอดมินจะมาแนะนำประโยชน์ของขิงกันค่ะ ลดอาการท้องอืด ขิงเป็นพืชที่มีฤทธิ์ร้อน ช่วยขับลม และกระตุ้นการทำงานของช่องท้องและลำไส้ได้ดี หากรับประทานน้ำขิงหรือขิงสดๆ ใครที่มีอาการท้องอืดบ่อยๆ ก็จะช่วยลดหรือบรรเทาอาการเหล่านี้ไปได้ คลื่นไส้ อาเจียน เหม็นอาหาร แต่ประจำเดือนมาปกติ 3 วันแล้ว จะท้องไหม ได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ไป แฟนผม ณ ตอนนี้มีอาการคลื่นไส้ อยากอาเจียนเป็นประจำครับ รวมทั้งเหม็นอาหารครับ แต่ก็มีประจำเดือนปกติมา 3 วันแล้วเลือดก็ออกมากครับ แบบี้ควรไปตรวจไหมครับว่ามีเกณฑ์ตั้งครรภ์ไหมครับ 


(ไม่แน่ใจว่าเป็นผลข้ คำตอบโดยแพทย์ ได้กลิ่นคาวอาหาร กลิ่นน้ำมันจากอาหาร แล้วจะอาเจียน เป็นมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว เกิดจากอะไร อาการเกิดได้ตลอดเวลาเลยค่ะ ถ้าได้กลิ่นคาวทุกชนิด มีอาการแบบนี้ตั้งแต่อยู่ อนุบาล3 จนปัจจุบันอายุ 24 แล้วค่ะ พอโตขึ้นอาการก็เกิดขึ้นบ่อย เวลารับประทานอาหารไม่มีอาการ แต่เวลาเห็นคนอื่นกินหรือได้กลิ่นรู้ ขิงช่วยแก้อาการวิงเวียน หน้ามืด อาเจียน เมารถ เมาเรือ ขิงช่วยบำรุงหัวใจ เหมาะกับผู้ป่วยโรคหัวใจ ขิงช่วยการไหลเวียนของน้ำนมมารดาให้ดีขึ้น ขิงช่วยรักษาอาการมือ เท้าเย็นได้ เนื่องจากขิงเป็นสมุนไพรที่มีมีฤทธิ์ร้อน ไม่มีรายงานหรือปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่ามีถิ่นกำเนิดจากที่ใด แต่สันนิษฐานว่าขิง มีแหล่งกำเนิดอยู่ในบริเวณเอเชียตอนใต้ โดยเชื่อว่าแหล่งกำเนิดอยู่ในประเทศจีนชาวอินเดียได้นำขิง เข้าไปจำหน่ายในทวีปยุโรป ประมาณในศตวรรษที่ 7 ได้มีผู้นำเข้าไปจำหน่ายในประเทศแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีชื่อภาษาสันสกฤตว่า “Singabera” พวกกรีกและลาติน เรียกว่า “Zingiber” ซึ่งคำนี้ปัจจุบันคือ ชื่อสกุล ของขิง เชื่อว่าแหล่งกำเนิดของขิง น่ามาจากประเทศในแถบเอเชียอาคเนย์ ปัจจุบันขิง แก้ไอและขับเสมหะ ใช้ขิงสดฝนกับน้ำมะนาว แทรกเกลือ ใช้กวาดคอหรือจิบบ่อยๆ ลดความดันโลหิต ใช้ขิงสดเอามาฝานต้มกับน้ำรับประทาน น้ำมันหอมระเหย ขิง สรรพคุณและประโยชน์สุดยอด ที่สกัดจากขิงออสเตรเลียมีปริมาณกรดมะนาวสูงถึง 8-27 เปอร์เซ็นต์ องค์ประกอบทางเคมีของขิง 


อนุพันธ์ของ Gingerol, shogaol และ diarylheptanoids มีฤทธิ์ต้านการอาเจียน และช่วยขับลม นอกจากนี้สารในน้ำมันหอมระเหย เช่น menthol, cineole มีผลลดอาการจุกเสียดได้ รูปภาพองค์ประกอบทางเคมีของขิง ประโยชน์ทางอาหารของขิง • คุณค่าทางอาหารของขิง (ขิง 100 กรัม) สูตรขิงช่วยให้เจริญอาหาร นำเหง้าขิงสดมารับประทานสด ๆ คู่กับอาหาร นำขิงแก่ขนาดหัวแม่มือมาอังไฟจนสุก ตำผสมน้ำปูนใส คั้นเอาแต่น้ำ ผสมน้ำร้อน 1 ถ้วยกาแฟ ดื่มก่อนอาหารประมาณ 30 นาที จะช่วยเรียกน้ำย่อย แก้เบื่ออาหาร สูตรขิงแก้ปวดประจำเดือน นำขิงแก่มาต้มกับน้ำ หรือน้ำตาลทรายแดง ดื่มเป็นประจำในช่วงก่อนประจำเดือนจะมา หรือช่วงมีประจำเดือน ความเผ็ดร้อนของขิงจะช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนสะดวกขึ้น บรรเทาอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อทั้งในมดลูกและทางเดินอาหาร จึงช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนของผู้หญิงได้ดี สูตรน้ำขิงลดความดันโลหิต นำขิงสดมาฝานแล้วต้มกับน้ำดื่มวันละแก้ว จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และลดความดันโลหิต แห้งและขิงสดไม่แตกต่างกัน โดยใช้ขิงในการทาถูนวดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ใช้ขิงลดการอักเสบ แก้ปวด ลดอาการบวมน้ำ ใช้เป็นยากระตุ้นความอยากอาหาร 


เป็นยาช่วยย่อย ช่วย ขับลมในลำไส้ นอกจากนี้ขิง ผสมน้ำผึ้ง และน้ำคั้นจากกระเทียม รักษาอาการหอบหืด ทั้งยังมีการใช้ขิงผงแห้งละลายน้ำอุ่นทาที่หน้าผากรักษาอาการปวดหัว มาใช้ ประโยชน์ประมาณคริสต์ศตวรรษ ที่ ๘ การใช้จะเหมือนๆ กับของจีน ปัจจุบันขิงดองดูเหมือนจะเป็นอาหาร ประจำชาติของญี่ปุ่นไปเสียแล้ว และมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับขิง ใน ญี่ปุ่น พบว่าขิงมีฤทธิ์บำรุงหัวใจ ลดความดันเลือด ลดโคเลสเตอรอล ฤทธิ์ลดการอักเสบ จากการศึกษาในผู้ป่วยที่เป็นโรคไขข้ออักเสบ ข้อเสื่อม และมีอาการผิดปกติทางกล้ามเนื้อ เมื่อให้รับประทาน ขนาด 5 กรัม/วันติดต่อกันนาน 3 เดือน พบว่ามีผลลดอาการอักเสบ ปวดบวม และข้อขัดของผู้ป่วยได้ เติมน้ำตาลทรายแดง และน้ำตาลทรายขาวลงไป แล้วรอให้เดือด ใครชอบหวานมากน้อย ก็จัดกันไปค่ะ น้ำตาลทรายแดงทำให้แดง ใส่ประมาณ 1 ถ้วยตวง ถ้าหวานไม่พอใส่น้ำตาลทรายขาวเพิ่มด้วยค่ะ โดยใส่เพิ่มอีกประมาณ 1.5 ถ้วย เมื่อต้มน้ำขิงเสร็จแล้ว ก็ให้พักไว้ก่อน คั่วงาดำ แล้วป่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่น หรือจะตำเอาแบบแม่ปันปรายก็ได้ (สะดวกดีแต่ไม่ละเอียดมาก) ตั้งกระทะ ใส่น้ำตาลปิ๊ปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วเติมน้ำลงไปนิดหน่อย หลังจากนั้นรอให้น้ำตาลเหนียว ให้ใส่งาดำที่คั่วแล้วลงไป ใส่น้ำตาลทรายตามไปด้วยประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ (รสหวานตามชอบ) ค่อยๆคน ใช้ไฟอ่อน เห็นว่าเหนียวดีแล้วพักไว้

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ yoyo (yosita-dot-pongg-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2022-04-20 15:26:49 IP : 45.40.54.48


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.